ในช่วงคลื่นความร้อนในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ที่นอวา สกอเทีย ประเทศแคนาดา มนุษย์ต่างพยายามหลบหนีความร้อนโดยใช้ระบบปรับอากาศและหลบภายใต้เงาต้นไม้ ส่วนปลาซาลมอนแอตแลนติกในแม่น้ําวรายต์สะสมตัวอยู่บริเวณน้ําลึกที่เย็นกว่า เช่น ร่องน้ําลึกที่หลบแสงอาทิตย์ แต่บริเวณหนึ่งที่เย็นนั้นไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เกิดจากการที่มนุษย์สูบน้ําเย็นจากบ่อบาดาลมาฉายไหลเข้าสู่แม่น้ําที่ร้อนเกินไป
นักวิจัยได้จัดตั้งระบบนี้ขึ้นเพื่อทดลองวิธีการที่อาจช่วยปลาซาลมอนแอตแลนติกรับมือกับอุณหภูมิน้ําที่สูงขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยปกติปลาชนิดนี้จะรักสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิระหว่าง 43-72 องศาเซลเซียส และอาจตายได้ถ้าอยู่ในน้ําที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 82 องศาเซลเซียสนานๆ การวิจัยนี้ต้องการทดสอบว่าอาจจะสร้างบริเวณที่เย็นเป็นพื้นที่หลบภัยสําหรับปลาได้หรือไม่
คาทริน สมิธ นักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยดัลเฮาซีที่นํางานวิจัยนี้ เห็นว่าในอนาคตอาจจําเป็นต้องมีการปรับตัวเช่นนี้เพื่ออนุรักษ์ปลาซาลมอนและสิ่งมีชีวิตน้ําเย็นอื่นๆ ในแม่น้ําไว้ได้
ในการทดลอง ทีมวิจัยได้ทดสอบสองวิธีคือ วิธี “แอกทีฟ” โดยสูบน้ําเย็นจากบ่อบาดาลมาฉายไหลเข้าแม่น้ํา และวิธี “แพสซีฟ” โดยนําสาขาของแม่น้ําไปไหลลึกลงใต้ดินเพื่อให้น้ําเย็นลงด้วยความร้อนของดิน ทั้งสองวิธีทําให้เกิดบริเวณน้ําเย็นกว่าบริเวณอื่น และปลาต่างๆ เช่น ซาลมอนแอตแลนติก ปลาตะเพียนน้ําจืด และปลาชนิดอื่นๆ ต่างพากันรวมตัวอยู่ที่บริเวณน้ําเย็นนั้นเพื่อหลบความร้อน
งานวิจัยนี้ต้องการทดสอบวิธีการต่างๆ เพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดในแต่ละพื้นที่และประเภทปลา และใช้ระบบนี้ช่วยปลาที่เผชิญภัยจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิแม่น้ําในอนาคต “มันน่าตื่นเต้นมาก” คาทรินกล่าว “เราต่างร้องเฮอะแฮ่และปรบมือเมื่อเห็นปลารวมตัวกันที่บริเวณน้ําเย็น”