ผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีความส่วนตัวมากขึ้น และพร้อมที่จะแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวเพิ่มเติมกับบริษัทประกันภัย เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมถึงกระบวนการรับเบี้ยประกันภัยที่ดีขึ้น และเบี้ยประกันภัยที่ถูกลง
บริษัทประกันภัยต้องพิจารณาถึงความสําคัญของลูกค้าอย่างยั่งยืน เช่น ความคุ้มค่า คุณค่าต่อเงิน และความต้องการซื้อประกันภัยผ่านเอเยนต์
สิงคโปร์, วันที่ 17 สิงหาคม 2566 — ส่วนใหญ่ของผู้บริโภคที่ถูกสํารวจในการสํารวจของ Capco ในปี 2566 ต้องการประกันภัยที่มีความส่วนตัวมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับผลิตภัณฑ์การออมระยะยาว (76% ของผู้ถือประกันภัย) ประกันชีวิต (74%) และประกันสุขภาพ (73%) ซึ่งผลการสํารวจนี้แสดงโอกาสที่ชัดเจนสําหรับบริษัทประกันภัยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการและคาดหวังของลูกค้ามากขึ้น
นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ของผู้ถือประกันภัย 1,000 คนในสิงคโปร์ที่ถูกสํารวจ (90%) พร้อมที่จะแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวเพิ่มเติมกับบริษัทประกันภัย เพื่อรับประโยชน์ต่างๆ ประโยชน์สําคัญที่สุดคือ การปรับปรุงกระบวนการรับเบี้ยประกันภัย (49%) รองลงมาคือ เบี้ยประกันภัยที่ถูกลง (46%) และบริการที่มีความส่วนตัวมากขึ้น (45%)
แม้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะชอบซื้อประกันภัยผ่านช่องทางดั้งเดิม เช่น เอเยนต์ แต่ก็มีความเปิดกว้างที่จะแบ่งปันข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อรับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีความส่วนตัวมากขึ้น ร้อยละ 43 พร้อมที่จะพิจารณาแบ่งปันข้อมูลผ่านอุปกรณ์ไร้สาย เช่น สมาร์ทวอตช์ ร้อยละเดียวกันพร้อมที่จะทําเช่นนั้นผ่านการตรวจสุขภาพ และร้อยละ 38 ผ่านอุปกรณ์สมาร์ทในบ้าน
การสํารวจของ Capco ในสิงคโปร์ได้สํารวจตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของผู้ถือประกันภัยระหว่างอายุ 18-65 ปี เพื่อจับภาพทัศนะของผู้บริโภคต่อประกันภัยและบริษัทประกันภัย รวมถึงช่องทางการซื้อที่ชอบ ปัจจัยการตัดสินใจ มุมมองเกี่ยวกับกระบวนการรับเบี้ย และแอปพลิเคชันประกันภัย รวมถึงความพร้อมในการให้ข้อมูลส่วนตัวเพื่อความส่วนตัวที่มากขึ้น
รายงานฉบับนี้ได้เน้นโอกาสสําคัญที่บริษัทประกันภัยสามารถเข้าถึงได้ – เช่น ประสบการณ์ลูกค้าที่แตกต่างกัน ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น และการขายผสมผสานมากขึ้น – จากทัศนะที่ดีต่อการแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภคจากการวิจัยของ Capco
Lance Levy, CEO ของ Capco กล่าวว่า: “อนาคตของผลิตภัณฑ์ประกันภัยจะมีความตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายมากขึ้น บริษัทประกันภัยจะใช้ระบบการกําหนดราคาที่แปรผันรวมถึงวิธีการอื่นๆ เพื่อนําลูกค้าไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุด ในเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด พร้อมด้วยเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม บริษัทประกันภัยที่สามารถบูรณาการข้อมูลและเทคโนโลยีเข้ากับกลยุทธ์ธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดจะเป็นผู้นําตลาด”
Erienne Wong ผู้จัด