เมื่อ Fatih Birol ผู้อํานวยการฝ่ายบริหารขององค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เสนอในบทความวิจารณ์เมื่อเดือนที่แล้วว่าการต้องการพลังงานฟอสซิลเช่นน้ํามัน ก๊าซ และถ่านหินจะถึงจุดสูงสุดก่อนปี 2030 ผู้ผลิตน้ํามันใหญ่ๆ เช่น Exxon และ Chevron ได้วิพากษ์วิจารณ์ว่าการลงทุนของตนเข้าสู่เทคโนโลยีการจับกักคาร์บอนและการผลิตที่มีประสิทธิภาพทางคาร์บอนมากขึ้นจะส่งเสริมให้มีการบริโภคเพิ่มขึ้นอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
สองสัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นการควบรวมกิจการพลังงานที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา คือการซื้อกิจการของ ExxonMobil ด้วยมูลค่า 59.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อบริษัทสํารวจน้ํามันระดับชั้น Pioneer Natural Resources เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม และการซื้อกิจการของ Chevron ด้วยมูลค่า 53,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อบริษัทผู้ผลิตน้ํามันอื่นๆ คือ Hess เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม
Chevron ใช้งบประมาณในการซื้อกิจการของ Hess ในปีนี้สูงกว่างบประมาณที่จะใช้ในการลดการปล่อยคาร์บอนระหว่างปี 2021-2028 ถึง 5 เท่า ขณะที่ Exxon ใช้งบประมาณในการซื้อกิจการสูงกว่างบประมาณที่จะใช้ในการลดการปล่อยคาร์บอนภายใน 5 ปีข้างหน้าถึง 3 เท่า จากข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าบริษัทเหล่านี้ไม่ได้วางแผนที่จะลดการปล่อยคาร์บอนอย่างจริงจังนัก