ลอนดอน — สหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้ขยายความพยายามในการตัดการเงินสนับสนุนฮามาส โดยประกาศการลงโทษรอบที่สองต่อบุคคลและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มนี้นับตั้งแต่ฮามาสได้ดําเนินการทําร้ายอิสราเอลซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 คน
มาตรการลงโทษครั้งใหม่นี้ เน้นย้ําถึงบทบาทของอิหร่าน ในการให้การสนับสนุนทางการเงิน การสนับสนุนทางโลจิสติกส์ และการสนับสนุนด้านปฏิบัติการต่อฮามาส กระทรวงการคลังสหรัฐฯ สํานักควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศได้กล่าวไว้ในข้อความ รวมถึงตัวแทนฮามาสในอิหร่านและสมาชิกกองกําลังการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน
มาตรการลงโทษดังกล่าวถูกประกาศขณะที่รองรัฐมนตรีกระทรวงการคลังวอลลี เอเดย์โมกําลังเดินทางไปลอนดอนเพื่อรวบรวมการสนับสนุนจากสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของสหรัฐฯ ในการกดดันให้ฮามาสขาดแหล่งเงินทุน
“การดําเนินการครั้งนี้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ในการทําลายเครือข่ายเงินทุนของฮามาส โดยใช้อํานาจการลงโทษต่อการก่อการร้ายและความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกเพื่อปฏิเสธความสามารถของฮามาสในการใช้ระบบการเงินระหว่างประเทศ” เอเดย์โมกล่าว
บุคคลและองค์กรที่ถูกลงโทษรวมถึง คาลิด กัดดูมี ซึ่งถูกบรรยายว่าเป็นตัวแทนความสัมพันธ์ระหว่างฮามาสกับรัฐบาลอิหร่าน และอาลี มอร์เชด ชีราซี และมอสตาฟา มุฮัมหมัด ขานี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในกองกําลังการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านที่ถูกกล่าวหาว่าให้การฝึกและสนับสนุนนักรบฮามาส
สหรัฐฯ ยังลงโทษองค์กรต่างๆ รวมถึง Bonyad Shahid หรือ Martyrs Foundation ซึ่งเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายปาเลสไตน์อิสลามิก ซึ่งสหรัฐฯ กล่าวว่าองค์กรนี้ได้ส่งเงินจํานวนหลายล้านดอลลาร์ไปยังครอบครัวของนักรบผ่านองค์กร Al-Ansar Charity Association ในกาซา
ปฏิบัติการดังกล่าว “ในที่สุดก็จะเป็นเครื่องมือในการสร้างการสนับสนุนทางการเมือง” สหรัฐฯ กล่าว
มาตรการลงโทษจะทําให้ทรัพย์สินของบุคคลและองค์กรที่ถูกกําหนดในสหรัฐฯ ถูกจํากัดการใช้งาน ห้ามมิให้มีการทําธุรกรรมทางการเงินกับบุคคลและองค์กรเหล่านั้น และห้ามให้การสนับสนุนทางการเงิน สินค้า หรือบริการต่อบุคคลและองค์กรเหล่านั้น