อินเดียพยายามปล่อยชีตาห์กลับคืนสู่ธรรมชาติ แต่ผลออกมาไม่ดี

เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา สิงโตชีตาห์ 8 ตัวที่ติดวิทยุคอลลาร์ได้เดินทางจากนามิเบียมายังอุทยานแห่งชาติกูโนในรัฐมัธยประเทศซึ่งอยู่ตอนกลางของอินเดีย โดยการเดินทางระยะทาง 5,000 ไมล์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการชีตาห์ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อนําสิงโตชีตาห์กลับมาปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในทุ่งหญ้าของอินเดียอีกครั้ง หลังจากสูญพันธุ์ไปเมื่อ 70 ปีก่อนจากการล่าสัตว์

การปล่อยสิงโตชีตาห์กลุ่มแรกนี้ตรงกับวันเกิดครบรอบ 72 ปีของนายกรัฐมนตรีอินเดีย นาเรนทรา โมที ซึ่งได้ร่วมเฉลิมฉลองโดยการเปิดกรงปล่อยสิงโตชีตาห์ตัวแรกสู่อุทยานด้วยตัวเอง โมที กล่าวในคํากล่าวว่า “หลายทศวรรษก่อน ความเชื่อมโยงทางชีวภาพที่มีมาแต่โบราณถูกตัดขาดและสูญพันธุ์ไป แต่วันนี้เรามีโอกาสที่จะฟื้นฟูมันกลับคืนมา วันนี้ สิงโตชีตาห์ได้กลับมายังผืนแผ่นดินอินเดียอีกครั้ง”

โครงการชีตาห์เข้าสู่ปีที่สองเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา แต่ความสําเร็จของโครงการอนุรักษ์ที่เป็นที่สนใจนี้ยังคงไม่แน่นอน หลังจากสิงโตชีตาห์ 9 ใน 20 ตัว รวมถึงลูกสิงโต 3 ตัว เสียชีวิตด้วยสาเหตุต่างๆ ตั้งแต่เดือนมีนาคม

เจ้าหน้าที่ได้จับสิงโตชีตาห์ที่เหลือกลับมาและกักไว้ในกรงเพื่อติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งพวกมันจะยังคงอยู่ที่นั่นจนกว่าคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าที่แต่งตั้งโดยรัฐบาลจะอนุมัติให้ปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติอีกครั้ง

ความยุ่งยากเหล่านี้ทําให้นักอนุรักษ์จากนานาชาติที่เกี่ยวข้องกับโครงการเกิดความกังวล โดยระบุว่าความไร้ประสบการณ์และการบริหารจัดการที่ไม่ดี รวมถึงการเมินเฉยคําแนะนําของผู้เชี่ยวชาญโดยรัฐบาล อาจมีส่วนทําให้สิงโตชีตาห์เสียชีวิต

ทําไมอินเดียจึงต้องการนําสิงโตชีตาห์กลับมาปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ?

สิงโตชีตาห์เอเชียเคยเร่ร่อนอยู่ตามทุ่งหญ้าในอินเดียมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ ควบคู่ไปกับสิงโต เสือ และเสือดาว จนกระทั่งถูกกษัตริย์และอาณานิคมอังกฤษล่าจนสูญพันธุ์ในปี 1952 สิงโตชีตาห์ถูกประกาศอย่างเป็นทางการว่าสูญพันธุ์ในอินเดีย

ตั้งแต่นั้นมา อินเดียได้หารือกันหลายครั้งเกี่ยวกับวิธีการนําสิงโตชีตาห์กลับมาในระบบนิเวศ และพิจารณาข้อเสนอจากรัฐบาลอิหร่านและเคนยา ในปี 2009 รัฐบาลอินเดียเสนออย่างเป็นทางการที่จะนําเข้าสิงโตชีตาห์แอฟริกา แต่ศาลสูงสุด ระงับความพยายามเหล่านี้ ในปี 2012 หลังนักอนุรักษ์บางคนกล่าวว่าการนําเข้าสัตว์แอฟริกาฝ่าฝืนมาตรฐานการอนุรักษ์ระหว่างประเทศ ศาลสูงสุดพลิกคําตัดสินในต้นปี 2020 โดยอนุญาตให้นําเข้าสิงโตชีตาห์ได้ แต่ในจํานวนน้อยและเป็นการทดลอง

ตามการย้ายกลุ่มแรกจากนามิเบีย กลุ่มสิงโตชีตาห์จากแอฟริกาใต้อีกกลุ่มหนึ่งมาถึงในเดือนกุมภาพันธ์ สิงโตชีตาห์อีกประมาณ 12 ตัวจะถูกนํามาจากประเทศแอฟริกาทุกๆ ปีเป็นเวลา 5 ปี เพื่อพยายามสร้างประชากรสิงโตชีตาห์ประมาณ 40 ตัว รั