ในที่สุด Google ได้เผยโฉม Pixel 6 และ Pixel 6 Pro รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีการเปลี่ยนแปลงหลากหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นขุมพลังที่ผลิตเอง กล้องที่มีความสามารถมากขึ้น ความฉลาด และแน่นอนว่าหน้าจอที่มี Notch เล็กๆมาให้
แน่นอนว่า Google Pixel 6 นั้นเลือกใช้ชิปที่ Google พัฒนาเองที่มีชื่อว่า Tensor มีขนาด 5 นาโนเมตร แบบ Octa Core ประกอบด้วย Cortex-X1 ที่มีให้ใช้ 2 Core พร้อมกับอีก 2 Core ที่มีความแรงพอประมาณ และ 4 Core ที่ประหยัดพลังงาน แน่นอนว่าชิปเดียวก็มีความสามารถเยอะมาก พร้อมกับชิป Titan M2 ปกป้องความปลอดภัยที่ดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับ มีการสัญญาว่าจะมอบ Security Patch นานถึง 5 ปีสำหรับ Pixel 6
มาถึงเรื่องขนาดของเครื่องกันดีว่า Pixel 6 จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด 1080p เลือกใช้ Panel แบบ AMOLED มีค่า Refresh Rate 90Hz ส่วน Pixel 6 Pro จะได้หน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1440p พร้อมกับ Refresh Rate 120Hz เป็นหน้าจอแบบ LTPO AMOLED สามารถปรับค่า Refresh Rate เพื่อประหยัดพลังงาน ครอบทับด้วย Gorilla Glass Victus เหมือนกันทั้งคู่ และยังได้หน้าจอโค้งสำหรับ Pixel 6 Pro และมีระบบสแกนนิ้วในหน้าจอทั้งคู่
ทางด้านกล้องของ Pixel 6 และ Pixel 6 Pro จะได้กล้องหลักเหมือนกันคือ 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Samsung GN1 ขนาด 1/1.3 นิ้ว และมีกล้องมุมกว้างความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่จะแตกต่างคือ เลนส์ Telephoto ความละเอียด 48 ]นพิกเซลรองรับการซูมแบบ 4x Optical Zoom และมี Super Res Zoom โดยสามารถเลืองซูมได้มากสุด 20 เท่า แบบไม่มีแตก
ส่วนกล้องหน้า Pixel 6 Pro ได้ความละเอียด 11.1 ล้านพิกเซล และ Pixel 6 จะได้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ส่วนแบตเตอรี่ของ Pixel 6 จะมีขนาด 4600 mAh แต่สำหรับ Pixel 6 Pro จได้ขนาด 5000 mAh ทั้งคู่รองรับกำลังชาร์จไฟ 30W ให้และรองรับ Wireless Charge ที่กำลังระหว่าง 21/23W ทั้งหมดนี้จะต้องซื้อที่ชาร์จ Pixel Stand Charger และ ปลั๊กไฟแยกตางหาก
ความฉลาดที่มีอยู่ใน Pixel 6
นอกจากเรื่องสเปกที่บอกไปแบบหมดเปลือกแล้ว Pixel 6 ยังมีการติดตั้งฟีเจอร์ฉลาดเช่น Magic Eraser ที่จะลบคนหรือวัตถุออกไปได้ พร้อมกับป้องกันถ่ายภาพคนแล้วหน้าเบลอ และยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ในการถ่ายภาพ Portrait Mode ที่ทำให้จัดการรายละเอียดของภาพที่ดีมากขึ้น พร้อมกับโหมดถ่ายภาพกลงคืนที่ดีกว่ารุ่นเดิม
รองรับฟีเจอร์ Live Translate ที่นอกเหนือจากการถ่ายภาพแปลภาษาแล้วยังรองรับการพูดแล้วอ่านได้รองรับมากถึง 55 ภาษา ซึ่งชิป Tensor สามารถอ่านได้ในบางภาษาตัวอย่างเช่น ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, ญี่ปุ่น, โปรตุเกส, สเปน ที่กล่าวมาคือรองรับแบบ Offline
และยังสามารถให้ Google Assistant ทำความสามารถไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการรอสายให้กดปุ่มอะไรตามที่เราต้องการก็ได้ และรวมไปถึงการปรับแต่งภาพอัตโนมัติผ่าน Google Photo
สีสันของ Pixel 6 จะมีทั้งหมด 3 สีได้แก่ Cloudy White, Sorta Sunny, Stormy Black ความจำมีให้เลือกทั้ง Ram12GB / 128GB, RAM 12GB / 256GB และ RAM 12GB/ 512GB โดยราคาเริ่มต้นที่ 899 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ 30,xxx บาท
ส่วน Pixel 6 จะมีผิวเฟรมเป็นโลหะพร้อมกับ 43 สีให้เลือกคือ Sorta Seafoam, Kinda Coral, Stormy Black โดยมีรุ่น RAM 8/128GB และ RAM 8/256GB ทั้งหมดนี้เริ่มต้นราคา 599 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 16,xxx บาท เริ่มเปิดจองแล้วตั้งแต่วันนี้ในประเทศที่จำหน่ายโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา