เล่นแล้วเล่า : กับ HUAWEI Vision S 65″ สมาร์ทวิชั่นที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

หากยังจำกันได้ก่อนหน้านี้เราได้พรีวิวสั้น ๆ กันไปแล้วกับ HUAWEI Vision S Beyond TV 65″ และบทความนี้จะเป็นการบอกเล่าประสบการณ์หน้าจออัจฉริยะกับ HUAWEI Vision S Beyond TV ทีวีที่ เป็นได้มากกว่าทีวี ที่คุณเคยรู้จัก เพราะเราคิดว่ามันคือมือถือเครื่องยักษ์ที่ทำได้หมดทุกอย่าง อยากทำไรละ? โทร, ประชุม, ถ่ายรูป, ถ่ายวิดีโอ หรืออะไรที่สมาร์ทโฟนทำได้ HUAWEI Vision S Beyond TV เครื่องนี้ทำได้หมด

และแน่นอนว่าหลังจากได้ทดลองใช้งานจริง ๆ เราก็อยากเอามาเล่นให้ฟังกันว่า HUAWEI Vision S Beyond TV 65 นิ้ว ทำไมถึงกลายมาเป็นเป็นสมาร์ททีวีในดวงใจได้ อ่อสำหรับรุ่นนี้เขามาด้วยกันทั้งหมด 2 ขนาดทั้งขนาด 55 และ ุ65  นิ้ว แต่สำหรับรอบนี้ทีมได้รับรุ่นขนาด 65 นิ้วมารับชมกันแบบเต็มอิ่มจุใจ

รายละเอียดและสเปกคร่าว ๆ ของ HUAWEI Vision S Beyond TV 65″

  • กว้าง 1449.3 มิลลิเมตร, สูง 837.2 มิลลิเมตร หนา 72.1 มิลลิเมตร (ขนาดไม่รวมฐาน)
  • กว้าง 1449.3 มิลลิเมตร, สูง 876.4 มิลลิเมตร หนา 336.7 มิลลิเมตร (รวมฐาน)
  • หนัก: ประมาณ 20 กิโลกรัม
  • หน้าจอ: 65 นิ้ว, ความละเอียด 4K LCD UHD รีเฟรชเรท 120 Hz
  • อัตตราส่วนภาพ 16:9
  • ระบบปฏิบัติการ : HarmonyOS
  • หน่วยความจำปฏิบัติการ (RAM) 3 GB
  • ที่เก็บข้อมูลภายใน (ROM) 32 GB
  • ลำโพงทรงพลัง 10W จำนวน 4 ตัวที่ทำงานร่วมกับอัลกอริทึม HUAWEI SOUND
  • กล้อง Magnetic Camera ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลสามารถหมุนได้ 180°
  • พอร์ตเชื่อมต่อ : HDMI 2.0 x 3, AV In x 1, USB 3.0 x 1, SPDIF (coaxial)
  • กำลังไฟ: 230W

แกะกล่องส่องอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง    

  • HUAWEI Vision S ขนาดหน้าจอ 65 นิ้ว
  • ฐาน 2
  • สกรู 4 ไว้สำหรับยึกติดกับฐานหน้าจอ
  • รีโมต
  • คู่มือการใช้งาน
  • สายแปลงไฟ AV
  • สายไฟ
  • ใบรับประกัน
  • แบตเตอรี่ AAA จำนวน 2
  • กล้อง Magnetic Camera ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล

รูปลักษณ์ดีไซน์ของ HUAWEI Vision S 65″ ดีไซน์มินิมอลเรียบหรู… คลาสสิค

HUAWEI Vision S มาพร้อมกับรูปลักษณ์อันโดดเด่นของหน้าจอบางเฉียบและไร้ขอบ มีให้เลือกทั้งขนาด 55 นิ้ว และขนาด 65 นิ้ว อัดแน่นด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยมากมายที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบทั้งในด้านความบันเทิง การทำงาน และการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนและคนในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ด้วยกล้อง Magnetic Camera 13MP ที่ให้ผู้ใช้งานสนทนาผ่าน MeeTime Video Call ได้แบบเต็มตาบนหน้าจอที่คมชัดระดับ 4K โดยกล้อง Web Cam สามารถถอดออกได้

สำหรับรุ่นที่เราได้มาทดลองใช้งานเป็นรุ่นขนาดหน้าจอ 65 นิ้ว จอไร้ขอบแบบ UHD คมชัดระดับ 4K โดยจะมีน้ำหนักสุทธิ (รวมฐาน) ประมาณ 20 กิโลกรัม เรียกว่ามาตรฐานขนาดระดับเดียวกับทีวี 65 นิ้วในท้องตลาด ที่มีการวาจำหน่าย

HUAWEI Vision S มาพร้อมหน้าจอที่มีรีเฟซเรทสูงถึง 120 Hz ด้วยรีเฟรชเรทสูงถึง 120 Hz วิดีโอเล่นได้ลื่นไหลตลอดทั้งเรื่อง ในขณะที่อัลกอริธึม Smart MEMC ยังช่วยปรับให้วิดีโอมีเฟรมเรทต่ำเป็น 120 fps สดใสทุกสีสัน ใส่ชีวิตชีวาให้ภาพสวย จนเรียกว่าหลุดออกมาจากฉากจริงๆ เลยครับ

การอัปสเกล (เพิ่มความละเอียด) 4K อันทรงพลังช่วยรับประกันว่าคุณจะได้รับชมคอนเทนต์ที่คุณชื่นชอบด้วยความละเอียดที่มากถึง 4K ยิ่งไปกว่านั้น คุณจะได้รับชมสีที่สมจริงยิ่งกว่าเดิมด้วยเทคโนโลยีการสร้างโทนสีที่ซับซ้อนอีกด้วย

อีกเทคโนโลยีที่สำคัญ นั่นคือหน้าจอนี้ยังช่วยลดแสงสีฟ้าและลดการกระพริบของภาพได้อย่างดีเยี่ยมพร้อมปกป้องและถนอมสายตาทุกคู่อยู่เสมอ

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีการแสดงผลหน้าจอแบบครบเครื่องสมกับทีวีชั้นเยี่ยมไม่ว่าจะเป็น

  • ระบบ Smart MEMC
  • สีสันโดดเด่น
  • ลดแสงสีน้ำเงินลดการกระพริบของภาพ
  • ปรับภาพคมชัดแบบไดนามิก
  • ภาพละเอียดด้วย Super Resolution Turbo

ในส่วนของตัวเครื่องด้านหลังมาพร้อมกับดีไซน์แบบเรียบง่าย ตัวกรอบและฐานทำจากโลหะสแตนเลสคุณภาพสูง

สำหรับส่วนของฐานวางตั้งตัวทีวี HUAWEI Vision S Beyond TV นั้นถูกทำมาให้มีขนาดกะทัดรัดเหมาะสำหรับพื้นที่จำกัดได้อย่างลงตัวครับ ทำให้ทีวีของคุณสามารถเข้ากับการตกแต่งภายในของคุณได้อย่างกลมกลืน ยังดูคลีนแต่ก็ยังโดดเด่นอย่างสง่างามกว่าที่เคยเป็น

ขาตั้งรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้งตรงที่ใช้วัสดุเป็นสเตนเลสสตีลดังนั้นมั่นใจได้ว่าแข็งแรง และรองรับน้ำหนักของตัวทีวีได้อย่างมั่นคงแน่นอนครับ

ด้านหลังของตัวเครื่องหลัก ๆ ที่เราจะเป็นเป็นตำแหน่งของพอร์ตการเชื่อมต่อต่าง ๆ แล้วอีกอย่างที่เราเห็นชัดเจนคือส่วนของลำโพง ที่มีด้วยกันทั้งหมดถึง 4 ตัวด้วยกันครับประกอบไปด้วย ลำโพงความถี่เต็ม 10W(2 ตัว) และ Tweeter 10W(2 ตัว) แน่นอนว่ามันให้เสียงทรงพลังแบบที่ไม่ต้องซื้อซาวด์บาร์มาเพิ่มเลย

ต่อมาเป็นส่วนของฝั่งซ้ายจะเป็นตำแหน่งของตัวเสียบปลั๊กไฟ

ส่วนด้านขวาจะเป็นที่รวมของพอร์ทเชื่อมต่อต่าง ๆ คือทั้งหมดถูกวางไว้ฝั่งนี้ ซึ่งจะประกอบไปด้วย

  • HDMI 2.0 x 3
  • AV In x 1
  • AV In 3.5 mm x 1
  • USB 3.0 x 1
  • SPDIF (coaxial) x 1

ความรู้สึกในหลังจากได้ใช้งาน HUAWEI Vision S Beyond TV 65″ ในด้านต่าง ๆ

อันนี้อยากโชว์มากคือใช้แล้วชอบ!!! ความสามารถของระบบเสียง HUAWEI Sound  ที่ให้คุณภาพเสียงและพลังเสียงอันยอดเยี่ยม คือดีมาก แบบที่ต้องถอย Sound Bar เพิ่มเลย เปลี่ยนห้องนั่งเล่นให้กลายเป็นโฮมเธียเตอร์ด้วยลำโพงในตัว 4 ตัวและนวัตกรรมอัลกอริธึมเสียง HUAWEI Histen ที่ล้ำสมัย และยังรองรับเทคโนโลยี Dolby Audio 

อีกหนึ่งข้อดีที่เราได้เล่นแล้วชอบมาก(ชอบอีกแล้ว) นั้นคือแม้ว่า HUAWEI Vision S ถูกปิดหน้าจอลง แต่มันยังสามารถทำหน้าที่เป็นลำโพงระดับไฮเอนด์สำหรับห้องนั่งเล่นได้ด้วย ให้คุณเพลิดเพลินกับเพลงโปรดที่ขับเน้นเสียงคุณภาพเสมือนอยู่ในคอนเสิร์ตได้อย่างต่อเนื่อง  เมื่อเมื่อเปิดใช้งานโหมดลำโพง AI หน้าจอของ HUAWEI Vision S จะปิดลง แต่อุปกรณ์ยังเปิดอยู่

อีกหนึ่งไอเทมเด็ดคือกล้อง Magnetic Camera ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล สามารถหมุนได้ 180° (หมุนจากหน้าไปทางด้านหน้าจอ และหันไปทางหลังหน้าจอ) เพื่อถ่ายทอดภาพผ่านมุมมองที่ดีสำหรับคุณ และยังติดตั้งหรือถอดออกได้อย่างง่ายดาย กล้องสามารถเก็บภาพความสุขของทุกคนในครอบครัวด้วยภาพขนาด 1920 X 1080 เต็มหน้าจอ เข้าถึงง่าย ใช้งานสะดวก

สำหรับส่วนของกล้องนั้นหากเราไม่ได้ใช้งานเราก็สามารถถอดเก็บได้ โดยจะมีฝาครอบสำหรับปิดจุดเชื่อมต่อเพื่อป้องกันฝุ่นมาให้ในชุดทีวี การเชื่อมต่อระหว่างกล้องและตัวทีวีเป็นแบบแม่เหล็กครับแค่นำมาวางกับอุปกรณ์ทั้ง 2 ก็สามารถทำการเชื่อมต่อกันได้แบบง่าย ๆ 

HUAWEI Vision S Beyond TV 65″ มาพร้อมกับ HarmonyOS ระบบอัจฉริยะที่คุณวางใจได้ที่จะช่วยให้เราช่วยให้ชีวิตคุณสัมผัสความอัจฉริยะได้ทุกสถานการณ์ไม่ต่างอะไรกับการนั่งเล่นสมาร์ทโฟนเครื่องยักษ์

นอกจากเป็นทีวีแล้ว แน่นอนว่าด้วยชื่อของหัวเว่ย มันจะไม่เป็นทีวีธรรมดาแน่นอน มาดูกันว่าเราได้เล่นอะไรไปบ้าง

สำหรับคนที่ชื่นชอบการเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนก็สามารถยกระดับความมันส์ได้อีกหลายเท่าตัวกับฟังก์ชัน OneHop Projection ที่เปลี่ยนสมาร์ทโฟนกลายเป็นจอยควบคุมเกมให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลินไปกับอรรถรสเหนือชั้นบนจอใหญ่ได้อย่างง่ายดาย เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทวิชั่นที่ครบและจบในเครื่องเดียวอย่างแท้จริง

แน่นอนว่าก่อนเริ่มต้นใช้งานฟีเจอร์ MeeTime Video Call, ฟีเจอร์ MeeTime Video Call Transfer, กล้องหลัก, การฉายภาพแบบ OneHop Projection, ฟีเจอร์ Mirror Control, ฟีเจอร์ HUAWEI Share, เกมแบบ Distributed Gaming, ระบบ AI Voice, โหมด AI Speaker เรียกว่าครบจบในเครื่องเดียว เราต้องทำการเชื่อมต่อ HUAWEI Vision S 65″ กับ สมาร์ทโฟนเครื่องหลักของคุณก่อน

MeeTime Video Call สนทนากับคนที่คุณรักผ่าน MeeTime Video Call ความละเอียด 1080P หรือเปลี่ยนการแฮงเอาท์สนุกสนานบนสมาร์ทโฟนของคุณผ่าน HUAWEI Vision ก็ทำได้ราบรื่นไม่มีสะดุดด้วยฟีเจอร์ MeeTime Video Call Transfer  และแน่นอนว่าสำหรับคนที่กังวลเรื่องของเสียงที่ขณะใช้งานผ่าน HUAWEI Vision S Beyond TV เราขอบอกว่าคุณไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลย

เพราะหัวเว่ยเขาคิดแทนคุณมาให้แล้ว ด้วยไมโครโฟนที่ใส่มาถึง 6 ตัวทางด้านล่างของจอ ทำให้สามารถจับเสียงได้รอบทิศทางแม้จะพูดจากระยะไกล ช่วยให้การสนทนาแบบวีดีโอคอล หรือ การประชุมออนไลน์นั้นทำได้อย่างชัดเจน เราลองเล่นแล้วนะ คุยสายบนเตียงคือฟินสุด!! 

ทั้งนี้ MeeTime นั้น ถ้าจะใช้ได้ คุณจะต้องนำเบอร์โทรศัพท์ลงทะเบียนกับ Huawei Account เท่านั้น และจะใช้ได้กับมือถือ Huawei และ Tablet ตระกูล Huawei MatePad / MatePad Pro ในรุ่นปี 2020 ขึ้นไป รู้สึกว่าจุดนี้อาจจะเป็นข้อจำกัดไปหน่อยนะ

ใครว่าหน้าจอรุ่นนี้ทำมาเพื่อดูหนังและการ Hangout เพื่อนๆ แต่ความจริง ถ้าขณะเป็น สายเกมเมอร์  จอรุ่นนี้ก็มีฟีเจอร์ที่สามารถควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนได้เลย สนุกกับเกมที่เหนือกว่าด้วยสมาร์ทโฟนของคุณ โดยปรับให้สมาร์ทโฟนกลายเป็นจอยควบคุมเกมทุกอย่างบนหน้าจอขนาดใหญ่ได้สะใจยิ่งขึ้น ด้วยความหน่วงที่ต่ำมาก ราบรื่นจนคุณแทบไม่รู้สึก เท่าที่ได้ทดลองเล่นดูการเชื่อมต่อสามารถทำได้ไหลลื่นมาก ระหว่างเล่นเกมเรารู้สึกว่ามันแทบจะไม่มีความหน่วงเลย

และยังไม่หมดเพราะความสะดวกของ HUAWEI Share แชร์ไฟล์ได้ถึงกัน โยนทุกอย่างจากมือถือขึ้นไปได้เลย แชร์ภาพถ่าย วิดีโอ เพลง และแอพพลิเคชันระหว่างสมาร์ทโฟน กับ HUAWEI Vision S ได้สะดวกสบาย พร้อมตั้งช็อดโปรดของคุณเป็นสกรีนเซฟเวอร์เพื่อบ่งบอกความเป็นคุณได้

 

อันนี้เราชอบมากเพราะมันควบคุมผ่าน Mirror Control สัมผัสล้ำบนสมาร์ทโฟน นั้นคือควบคุมหน้าจอ HUAWEI Vision ผ่าน Mirror Control เปลี่ยนสมาร์ทโฟนบนมือคุณให้กลายเป็นทัชแพดที่ควบคุมได้ง่ายดาย พร้อมใช้งานได้ทันที หมดกังวลเรื่องหารีโมตไม่เจอไปได้เลย

เลือกผู้ช่วยคำสั่งเสียง หากคุณอยากทำงานด้วยเสียงเหมือนมีเลขาส่วนตัว “แม่สาวซีเลีย (Celia)” ก็สามารถโต้ตอบคุณได้แม้ในขณะที่หน้าจอปิดการใช้งานอยู่ ระบบเสียง 6 Mic Far-Field สามารถจดจำเสียงได้อย่างแม่นยำภายในรัศมี 5 เมตร การเรียกใช้งานแม่สาวซีเลียก็ทำได้ไม่ยากครับ เราใช้งานทำได้ 2 วิธี คือ กดไมโครโฟนที่รีโมตแล้วพูดสิ่งที่ต้องการเลยหรือเรียกว่า Hey, Celia/

  • เฮ้…ซีเลีย เปิดหนังให้ฉันดูหน่อย

  • เฮ้…ซีเลีย ปรับเสียงที่ระดับ 30

  • เฮ้…ซีเลีย ปิดหน้าจอ

ส่วนใครที่กลัวว่าหัวเว่ยเขาจะใส่แอปมาให้ไม่พอก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดเพิ่มเติมกันได้ที่ AppGallery ครับ เพราะมันรองรับแอปฯ ต่าง ๆ ที่สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ HarmonyOS บอกเลยว่าเยอะมากจริง ๆ ให้นึกซะว่าเหมือนกับใช้ Huawei MatePad เลยก็ว่าได้ครับ

ด้านความบันเทิงก็บอกเลยว่าไม่ต้องกลัวว่าจะมีอะไรหายไป!!!  อย่างพวก Youtube, Netflix, Disney+ เลือกได้หมดทุกแพลตฟอร์ม และที่สำคัญเขามีกล่องมาให้ด้วยถ้าไม่พอใจก็สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเอาเองได้เช่นกัน และหากคุณอยากดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่เห็นทั่วไปบนแอนดรอยด์คุณต้องใช้ไฟล์ APK เหมือนกับที่เราทำบนสมาร์ทโฟน

สำหรับที่บ้านเราเป็นกล่องทรู (True ID Box) ดังนั้นเราจึงเหมือนมีช่องฟรีทีวีแถมมาให้ด้วย แหม่ๆ ตรงนี้แหละดีมาก ๆ จากคนที่ไม่เคยดู ช่อง 3 5 7 ก็ได้ดูก็เพราะงานนี้ และแน่นอนว่าในส่วนของกล่องนั้นเราสามารถเลือกได้ทั้งกล่อง TrueID และ AIS Play Box ที่บ้านใช้งานกล่องทีวีตัวไหนก็สามารถเลือกได้ อันนี้งามจริง ๆ ^^

รีโมตคอนโทรลด้วยเสียงผ่าน Bluetooth และฉายภาพแบบ OneHop Projection ผ่านเทคโนโลยี NFC สามารถทำงานได้ง่ายดาย 

เป็นไงกันบ้างครับสำหรับ HUAWEI Vision S 65″ รุ่นใหม่ล่าสุดที่เรานำมารีวิวให้ได้อ่านกันในบทความนี้ สรุปแบบสั้น ๆ หลังการได้ทดลองใช้งานส่วนตัวนะ เราว่า HUAWEI Vision S Beyond TV คือสมาร์ททีวีที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในตอนนี้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์ตัวเครื่องที่เรียกได้ว่าค่อนข้างบาง สวยงาม ประหยัดพื้นที่การใช้งานหรือจะเป็นฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่สามารถทำงานกับสมาร์ทโฟนได้อย่างลงตัวไร้รอยต่อ

ใครที่กำลังเล็งจะซื้อสมาร์ททีวีไว้ใช้งานแล้วละก็เราอยากให้คุณได้มอง HUAWEI Vision S สุดยอด Beyond TV จากแบรนด์ HUAWEI รุ่นนี้เป็นอีกนึ่งตัวเลือกของคุณ ^^ 

HUAWEI Vision S 65″ ตัวนี้พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของเช่นกันในราคาดังนนี้ สำหรับรุ่น 55 นิ้ว ราคา 22,990 บาท และรุ่น 65 นิ้ว ราคา 29,990 บาท พิเศษ! เมื่อสั่งจองช่วง Pre-Order ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 – 18 ธันวาคม 2564 รับของสมนาคุณรวมมูลค่าสูงสุด 11,480 บาท* ทั้งกล่องรับสัญญาณ True ID Box และ HUAWEI MatePad 4 GB + 64 GB อีกด้วย

ติดตามข่าวสารต่างๆ ได้ทาง เฟซบุ๊กเพจ Huawei Mobile TH และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน HUAWEI AppGallery

สามารถติดตามรายละเอียดโปรโมชันอื่นๆ ผ่านร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ Lazada และ Shopee