วอโลดีมีร์ เซเลนสกี้ มาถึงสาย เขาได้รับเชิญให้มาพูดที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติในกรุงวอชิงตัน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานกว่าหนึ่งร้อยคน รวมถึงผู้นํารัฐสภาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากรัฐบาลไบเดน ซึ่งจะเป็นโอกาสสําหรับเขาในการสร้างกําลังใจให้กับสหรัฐฯ ในการต่อต้านรัสเซียด้วยวิธีการพูดที่เขามีชื่อเสียง แต่การพูดนั้นไม่ได้เป็นไปตามแผน
เซเลนสกี้มีนัดหมายที่ทําเนียบขาวและกระทรวงกลาโหมก่อนหน้านั้น ทําให้เขาล่าช้ากว่า 1 ชั่วโมง เมื่อเขามาถึงเวทีการพูดเมื่อเวลา 18.41 น. เขาดูเหนื่อยล้าและไม่สบายใจ เขาต้องอาศัยภรรยาของเขาในการสื่อสารข้อความของเขา ในขณะที่การพูดของเขาเองดูไม่สบายใจนัก ดังนั้นเขาจึงรีบจบการพูดให้เร็วที่สุด
เซเลนสกี้บอกกับไทม์ว่า สาเหตุที่เขาไม่สบายใจในคืนนั้นก็เพราะความเหนื่อยล้าทั้งจากภารกิจการบริหารประเทศในสงคราม และความจําเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับพันธมิตรว่ารัฐบาลยูเครนจะชนะสงครามด้วยความช่วยเหลือจากพวกเขา “ไม่มีใครเชื่อในชัยชนะของเรามากเท่ากับฉัน” เขากล่าว “แต่การสร้างความเชื่อมั่นให้พวกเขานั้นต้องใช้พลังทั้งหมดของคุณ คุณเข้าใจหรือเปล่า มันทําให้คุณเหนื่อยทั้งร่างกายและจิตใจ”
การสนับสนุนของสาธารณชนต่อการให้ความช่วยเหลือยูเครนในสหรัฐฯ ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว และการเยือนครั้งนี้ของเซเลนสกี้ก็ไม่ได้ช่วยฟื้นฟูความนิยมให้อีกต่อไป ตามสํารวจของ รอยเตอร์ พบว่า เพียงร้อยละ 41 ของชาวอเมริกันต้องการให้รัฐสภาสหรัฐฯ ให้อาวุธแก่กียิฟมากขึ้น ลดลงจากร้อยละ 65 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อยูเครนเริ่มปฏิบัติการตอบโต้ขนาดใหญ่
การตอบโต้ดังกล่าวได้ดําเนินไปอย่างช้าๆ และมีผู้เสียชีวิตมากมาย ทําให้เซเลนสกี้พบความยากลําบากในการโน้มน้าวพันธมิตรว่าชัยชนะจะเกิดขึ้นได้ในไม่ช้า การที่สงครามเกิดขึ้นในอิสราเอลยิ่งทําให้การรักษาความสนใจของโลกต่อสงครามในยูเครนยากขึ้น
หลังจากเยือนกรุงวอชิงตัน ไทม์ได้ติดตามเซเลนสกี้และทีมงานกลับมายังเคียฟ เพื่อศึกษาว่าพวกเขาจะตอบสนองอย่างไรต่อสัญญาณที่ได้รับจากการเยือนครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียกร้องให้เซเลนสกี้ต่อต้านการทุจริตในรัฐบาลของเขา และความสนใจต่อสงครามที่ลดลง
ในวันแรกที่ไปยังเคียฟ ผมถามสมาชิกคนหนึ่งในวงการของเซเลนสกี้ว่า เขารู้สึกอย่างไร “โกรธ” เขาตอบโดยไม่ลังเล เซเลนสกี้ไม่แสดงความสนุกสนานและมีความสบายใจเหมือนเดิมแล้ว “เขาเข้ามา รับรายงาน ให้คําสั่ง แล้วออกไป” สมาชิกคนหนึ่งกล่าว อีกคนหนึ่งบอกว่า เซเลนสกี้รู้สึกถูกทรยศจากพันธมิตรตะวันตกที่ไม่ได้ให้การสนับสนุนเพียงพอในการชนะสงคราม
แต่เซเลนสกี้ยังคงมั่นใจว่ายูเครนจะต้องชนะรัสเซียด้วยเงื่อนไขของตนเอง และเขากําลังปรับเปลี่ยนยุทธวิธีเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น โดยรู้สึกว่าการสนับส