กรุงเทพฯ, ตุลาคม 23, 2023 — WiMi Hologram Cloud Inc. (NASDAQ: WIMI) (“WiMi” หรือ “บริษัท”) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีฮอโลแกรมเสริมความเป็นจริง (AR) ระดับโลกชั้นนํา ประกาศว่า WiMi ได้พัฒนาเทคโนโลยีสมอง-คอมพิวเตอร์ผ่านสัญญาณชีวภาพผสมผสาน (HBS-BCI) ซึ่งกําลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยี HBS-BCI นี้ถูกออกแบบมาเพื่อปรับปรุงความแม่นยําในการจัดประเภท ขยายจํานวนคําสั่ง และลดเวลาในการตรวจจับคําสั่งจากสมองโดยการรวมสัญญาณชีวภาพหลายอย่างด้วยกัน ดังนั้น WiMi จึงมุ่งมั่นที่จะนําเสนอวิธีการที่ทันสมัยเพื่อปรับปรุงวิธีการที่คนจะมีปฏิสัมพันธ์กับเทคโนโลยี การเปิดตัวเทคโนโลยี HBS-BCI นี้ถือเป็นการพัฒนาที่สําคัญของ WiMi ในด้านเทคโนโลยีสมอง-คอมพิวเตอร์ผ่านสัญญาณชีวภาพ ซึ่งจะนํามาซึ่งโอกาสการประยุกต์ใช้งานที่กว้างขวางมากขึ้น และประสบการณ์การใช้งานที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น
ส่วนประกอบหลักของเทคโนโลยี HBS-BCI ของ WiMi คือระบบการได้มาซึ่งข้อมูล การประมวลผลสัญญาณและการสกัดคุณลักษณะ การออกแบบและการตั้งค่าภารกิจ คลาสซิฟไฟร์และอัลกอริทึมการรู้จํา การประยุกต์ใช้งานแบบเรียลไทม์และการให้ข้อมูลป้อนกลับ รวมถึงอุปกรณ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ระบบการได้มาซึ่งข้อมูลประกอบด้วยเครื่องมือต่างๆ เช่น เครื่องมือวัดสัญญาณสมอง เครื่องส่งสัญญาณและรับสัญญาณ เพื่อได้มาซึ่งสัญญาณชีวภาพต่างๆ ขั้นตอนการประมวลผลสัญญาณและการสกัดคุณลักษณะจะทําการกรอง ขจัดสัญญาณรบกวน และสกัดคุณลักษณะจากสัญญาณชีวภาพเพื่อได้มาซึ่งข้อมูลที่มีความหมาย การออกแบบและการตั้งค่าภารกิจจะกําหนดกิจกรรมหรืองานที่จะต้องทําโดยผู้ใช้ในงานสมอง-คอมพิวเตอร์ผ่านสัญญาณชีวภาพ คลาสซิฟไฟร์และอัลกอริทึมการรู้จําจะระบุและจัดประเภทความตั้งใจหรือคําสั่งของผู้ใช้จากคุณลักษณะที่สกัดได้โดยการฝึกและสร้างแบบจําลอง การประยุกต์ใช้งานแบบเรียลไทม์และการให้ข้อมูลป้อนกลับจะให้การติดต่อที่ต่อเนื่องระหว่างผู้ใช้กับอุปกรณ์ภายนอกหรือระบบ และให้ข้อมูลป้อนกลับเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ปรับปรุงและพัฒนาคําสั่งจากสมองได้
เทคโนโลยี HBS-BCI ของ WiMi มีข้อได้เปรียบอย่างมากเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีสมอง-คอมพิวเตอร์ผ่านสัญญาณชีวภาพแบบเดี่ยวๆ ประการแรก การรวมสัญญาณชีวภาพหลายอย่างจะช่วยเพิ่มความแม่นยําในการจัดประเภท ทําให้การรู้จําความตั้งใจและการจัดประเภทคําสั่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมอุปกรณ์ภายนอกได้อย่างน่าเชื่อถือมากขึ้น และปรับปรุงประสิทธิภาพการติดต่อได้ ประการที่สอง เทคโนโลยี HBS-BCI สามารถเพิ่มจํานวนคําสั่งที่สามารถควบคุมได้ ทําให้ขยายขอบเขตการประยุกต์ใช้งานได้มากขึ้น ผู้ใช้สามารถสร้างคําสั่งได้มากขึ้นผ่านกิจกรรมและภารกิจต่างๆ นอกจากนี้ เทคโนโลยี HBS-BCI ยังสามารถลดเวลาในการตรวจจับคําสั่งจากสมองได้ ซึ่งทําให้การตอบสนองและข้อมูลป้อนกลับเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดต่อกับสิ่งแวดล้อมภา