ดับลิน, 15 ก.ย. 2566 – รายงาน “ตลาดเครื่องตรวจจับคลื่นไฟฟ้าหัวใจโลก ขนาด การคาดการณ์ปี 2023-2030 กระแสอุตสาหกรรม แบ่งปัน การเติบโต การมองการณ์ไกล ผลกระทบของเงินเฟ้อ การวิเคราะห์บริษัท” ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในการเสนอขายของ ResearchAndMarkets.com
ตลาดเครื่องตรวจจับคลื่นไฟฟ้าหัวใจโลกคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 713.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2030 มีอัตราการเติบโตต่อปีเฉลี่ยที่ 5.71% ตั้งแต่ปี 2023 ถึง 2030
อุตสาหกรรมเครื่องตรวจจับคลื่นไฟฟ้าหัวใจโฮลเตอร์ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เปลี่ยนจากอุปกรณ์ขนาดใหญ่เป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่ทันสมัยและฉลาด โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อตรวจจับการทํางานของหัวใจในระยะยาวอย่างแม่นยํา และเสริมพลังให้บุคคลควบคุมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของตนเอง
ปัจจัยหนึ่งที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้คือการแพร่ระบาดของโรคหัวใจและหลอดเลือดที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสร้างความต้องการเครื่องตรวจจับคลื่นไฟฟ้าหัวใจโฮลเตอร์ที่สูงขึ้น ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ในปี 2565 มีประชากรทั่วโลกประมาณ 273.6 ล้านคนที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ความต้องการที่เพิ่มขึ้นนี้ยิ่งกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาทางเทคโนโลยี รวมถึงการเชื่อมต่อไร้สายและความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกและความแม่นยําของเครื่องตรวจจับคลื่นไฟฟ้าหัวใจโฮลเตอร์ ส่งเสริมให้มีการนําไปใช้มากขึ้น ซึ่งขับเคลื่อนตลาดเครื่องตรวจจับคลื่นไฟฟ้าหัวใจโฮลเตอร์โลก
ปัจจัยอื่นๆ เช่น ประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้น การเน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน การใช้จ่ายด้านสุขภาพที่สูงขึ้น และการรวมเข้ากับระบบสุขภาพอื่นๆ อย่างราบรื่น ต่างมีบทบาทสําคัญในการเติบโตของตลาด พัฒนาการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงผลลัพธ์ของผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มีการติดตามการรักษาจากระยะไกล ทําให้การดูแลสุขภาพมีความสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งเสริมความต้องการเครื่องตรวจจับคลื่นไฟฟ้าหัวใจโฮลเตอร์คือการแพร่ระบาดของหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดเหนือห้องบน (atrial fibrillation – AF) ที่เพิ่มขึ้น และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น โรคอ้วนและเบาหวาน ซึ่งยิ่งเร่งตัวด้วยการนําเทคโนโลยีการติดตามผู้ป่วยจากระยะไกล (remote patient monitoring – RPM) มาใช้อย่างแพร่หลาย ซึ่งลดความจําเป็นในการเข้าโรงพยาบาลเพื่อการตรวจด้วยเครื่องตรวจจับคลื่นไฟฟ้าหัวใจโฮลเตอร์ ทําให้ผู้ป่วยสะดวกและเข้าถึงบริการสุขภาพได้มากขึ้น
นอกจาก