คุณสามารถฝึกตัวเองให้พูดปฏิเสธได้ดีขึ้น

Get better at saying no

(SeaPRwire) –   มีปัญหาที่พบบ่อยเมื่อคนที่มีเจตนาดีพยายามพูดว่า “ไม่” คือคําว่า “ใช่” จะหลุดออกมาแทน

เราทุกคนเคยอยู่ในสถานการณ์นี้มาก่อน อาจารย์ Vanessa Bohns หัวหน้าภาควิชาและศาสตราจารย์ด้านพฤติกรรมองค์การที่มหาวิทยาลัย Cornell กล่าวว่า คําว่า “ไม่” เป็นคําสั้นๆ แต่กลับสร้างความวิตกกังวลให้กับผู้พยายามพูดออกมา ก่อนอื่น มันเปิดเผยอะไรบ้างเกี่ยวกับตัวตนของเรา

ในเวลาเดียวกัน เธอเพิ่มว่า เราน่าจะกังวลว่าการพูด “ไม่” อาจทําให้คนอื่นรู้สึกเสียหน้าหรือไม่ หรือบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนนั้นอย่างไร แต่ในความเป็นจริง เรื่องเหล่านี้มักจะถูกมองขึ้นกว่าความเป็นจริง

กลับกัน การเรียนรู้พูดว่า “ไม่” มีประโยชน์มากมาย “ถ้าคุณตอบตกลงทุกอย่าง คนอื่นก็จะมาขอให้ช่วยตลอดเวลา” อาจารย์ Bohns กล่าว “คุณจะกลายเป็นคนที่ถูกขอความช่วยเหลือบ่อยๆ และนําไปสู่ภาวะเหนื่อยล้า ปัญหาด้านชีวิตส่วนตัว และความรู้สึกว่าถูกใช้รวมทั้งสูญเสียอิสระ”

นอกจากนี้ การไม่สามารถพูดว่า “ไม่” อาจทําให้ความสนใจต่อกิจกรรมอื่นๆ เช่น งานอดิเรก ความสัมพันธ์หรือโครงการต่างๆ ต้องเสียหายไป” อาจารย์ Bohns ชี้ให้เห็นว่า “ทุกครั้งที่เราตอบตกลงสิ่งหนึ่ง เรากําลังบอกปัดสิ่งอื่นๆ”

การพูดว่า “ไม่” ได้ผลดีต้องเริ่มจากการมีความชัดเจนว่าสิ่งใดคุ้มค่ากับเวลาของเรา ซึ่งอาจจะยากขึ้นเมื่อมีแรงกดดันทางสังคมและความรับผิดชอบ Vanessa Patrick รองคณบดีฝ่ายวิจัยคณะบริหารธุรกิจ Bauer College มหาวิทยาลัยฮิวสตัน แนะนําให้ใช้แนวคิดต้นทุน-ผลประโยชน์ในการตัดสินใจ

บางคําขอ เช่น การเขียนบัตรแนะนําตัวสําหรับนักศึกษา จะไม่เป็นภาระมากนักสําหรับอาจารย์ Patrick แต่มีประโยชน์อย่างมากสําหรับนักศึกษา ขณะที่บางคําขออาจต้องใช้เวลามากแต่ไม่มีประโยชน์เท่าไรกับคนขอ เธอใช้ตัวอย่าง “การทําลาซาญาของคุณ” ถ้าถูกขอให้ทําอาหารที่ซับซ้อนและใช้เวลานานสําหรับงานเลี้ยง

ถ้ายังรู้สึกไม่สบายใจกับการพูดว่า “ไม่” จงระลึกว่าการฝึกฝนจะช่วยได้ นักวิชาการแนะนําแนวทางต่อไปนี้ให้ฝึกฝนการพูดว่า “ไม่”ให้ดีขึ้น

ตั้งใจสื่อสารสิ่งที่ต้องการถ่ายทอด

บางครั้งคําแนะนําว่า “ไม่” เป็นประโยคที่สมบูรณ์ แต่อาจารย์ Bohns เสนอว่า ควรสื่อสาร 3 สิ่งคือ “ไม่ใช่เพราะฉัน ไม่ใช่เพราะคุณ และไม่ใช่เพราะเรา”

หนึ่งในวิธีคือการขอบคุณที่คนนั้นคิดถึงเรา – ซึ่งทําให้พวกเขารู้สึกว่าไม่ได้ทําอะไรผิด แล้วตามด้วยการอธิบายสั้นๆว่า “ฉันอยากจะช่วย แต่ไม่มีเวลาตอนนี้”

มีวลีที่เตรียมไว้สําหรับสถานการณ์ปกติ

ไม่ใช่ทุกสถานการณ์ต้องใช้วิธีการอธิบายที่ละเอียดอ่อน อาจารย์ Bohns แนะนําให้คิดถึงสถานการณ์ที่ต้องพูดว่า “ไม่” อย่างรวดเร็ว แล้วคิดวลีที่เตรียมไว้ใช้ในอนาคต เช่นเธอมักถูกขอบริจาคเมื่อเช็คเอาท์ที่ร้านสะดวกซื้อ เธอจึงมีวลีว่า “ฉันได้บริจาคไปแล้วปีนี้”

บทความนี้ให้บริการโดยผู้ให้บริการเนื้อหาภายนอก SeaPRwire (https://www.seaprwire.com/) ไม่ได้ให้การรับประกันหรือแถลงการณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทความนี้

หมวดหมู่: ข่าวสําคัญ ข่าวประจําวัน

SeaPRwire ให้บริการกระจายข่าวประชาสัมพันธ์แก่ลูกค้าทั่วโลกในหลายภาษา(Hong Kong: AsiaExcite, TIHongKong; Singapore: SingdaoTimes, SingaporeEra, AsiaEase; Thailand: THNewson, THNewswire; Indonesia: IDNewsZone, LiveBerita; Philippines: PHTune, PHHit, PHBizNews; Malaysia: DataDurian, PressMalaysia; Vietnam: VNWindow, PressVN; Arab: DubaiLite, HunaTimes; Taiwan: EAStory, TaiwanPR; Germany: NachMedia, dePresseNow) 

ซื้อเวลา