ประเทศอาจก้าวไปข้างหน้าในการแก้ปัญหามลพิษจากพลาสติก

Great crested grebe - nest building with plastic foil

(SeaPRwire) –   รายงานนี้ผลิตขึ้นโดยความร่วมมือกับ Ocean Reporting Network ของ Pulitzer Center.

มีผู้แทนกว่า 1,000 คนจาก 175 ประเทศเดินทางมายังเนโรบีสัปดาห์นี้ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเศษขยะ ขยะพลาสติกนั่นเอง ซึ่งกําลังทําให้มหาสมุทรมีมลพิษ สัตว์ตาย น้ําที่เราดื่มมีสารพิษ และอากาศที่เราหายใจก็มีพิษเช่นกัน ตามสหประชาชาติประมาณการว่าทุกปีมีการผลิตพลาสติกประมาณ และส่วนใหญ่จะถูกทิ้งไปในทันที หรือภายในไม่กี่วันหรือสัปดาห์หลังการซื้อ ณ ปัจจุบันอัตราการผลิตพลาสติกจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวภายใน ปี และปัญหามลพิษจากพลาสติกก็จะเพิ่มขึ้นตาม

ปัญหานี้มีขนาดใหญ่มากจนสหประชาชาติตัดสินใจจัดตั้งกลไกระหว่างประเทศเพื่อหยุดมลพิษจากพลา�สติก โดยเรียกร้องให้รัฐสมาชิกตกลงทําสนธิสัญญาที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย เพื่อควบคุมทุกขั้นตอนของวงจรชีวิตของพลาสติกตั้งแต่การผลิต จนถึงการกําจัด หากประเทศต่างๆ สามารถตกลงทําสนธิสัญญาที่มีเป้าหมายหยุดมลพิษจากพลาสติกได้ ก็จะทําให้การผลิตพลาสติกลดลง การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง (พลาสติกผลิตมาจากน้ํามันและก๊าซธรรมชาติ) การรีไซเคิลและการจัดการขยะดีขึ้น มีผลิตภัณฑ์ที่ใช้ซ้ําได้มากขึ้น และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากวัตถุดิบรีไซเคิลมากขึ้น ซึ่งจะทําให้สภาพแวดล้อมดีขึ้น

การเจรจาอยู่ในรอบที่สามจากทั้งหมด 5 รอบ และได้ข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับเอกสารสนธิสัญญา ขณะนี้เอกสารฉบับนั้นยังเป็นแค่รายการข้อเสนอต่างๆ ในรูปแบบของเมนูเลือกตอบ เช่น ห้ามใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทั่วโลก หรือเก็บภาษีต่อตันพลาสติกเพื่อขจัดมลพิษจากพลาสติกภายใน ปี ไปจนถึงข้อเสนอที่ไม่เข้มงวดนัก เช่น ให้ประเทศต่างๆ ลดปริมาณพลาสติกโดยอิสระตามที่ตนเองตัดสินใจ (ฉันมองไปที่คุณปารีส)

ภายในสิ้นสุดสัปดาห์นี้หวังว่าจะมีข้อตกลงเกี่ยวกับร่างสนธิสัญญาฉบับสมบูรณ์ที่จะส่งไปยังรอบเจรจาถัดไปในเดือนเมษายนที่ออตตาวา เพื่อทบทวนแก้ไขต่อ

ความเข้มงวดของสนธิสัญญาสุดท้ายอาจมีผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อมของเรา ทีมวิทยาศาสตร์ นักวิจัยพลาสติก นักวิเคราะห์ข้อมูล และนักโปรแกรมเอไอจาก TIME Magazine, มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แซนตาบาร์บารา และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ได้พัฒนาโปรแกรมจําลองผลกระทบจริงจากข้อเสนอหลักๆ ในระดับความเข้มงวดต่างๆ แม้การลดการใช้พลาสติกครั้งเดียวได้ถึงร้อยละ 90 ก็จะช่วยลดมลพิษในทะเลได้เพียง 13 ล้านตันเท่านั้นจากประมาณ 108 ล้านตันใน ปี (มาร์คและลินน์ เบนิออฟฟ์ ผู้สนับสนุนโครงการนี้ยังเป็นเจ้าของ TIME Magazine ด้วย)

หากประเทศต่างๆ ตกลงร่างสนธิสัญญาที่เข้มงวดที่สุด มันจะมีผลกระทบอย่างไรต่อชีวิตประจําวันของคน?

บทความนี้ให้บริการโดยผู้ให้บริการเนื้อหาภายนอก SeaPRwire (https://www.seaprwire.com/) ไม่ได้ให้การรับประกันหรือแถลงการณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทความนี้

หมวดหมู่: ข่าวสําคัญ ข่าวประจําวัน

SeaPRwire ให้บริการกระจายข่าวประชาสัมพันธ์แก่ลูกค้าทั่วโลกในหลายภาษา(Hong Kong: AsiaExcite, TIHongKong; Singapore: SingdaoTimes, SingaporeEra, AsiaEase; Thailand: THNewson, THNewswire; Indonesia: IDNewsZone, LiveBerita; Philippines: PHTune, PHHit, PHBizNews; Malaysia: DataDurian, PressMalaysia; Vietnam: VNWindow, PressVN; Arab: DubaiLite, HunaTimes; Taiwan: EAStory, TaiwanPR; Germany: NachMedia, dePresseNow) 

จากข้อเสนอต่างๆ ข้อหนึ่งที่มีผลกระทบมากที่สุด (การลดมลพิษ 50 ล้านตันภายใน ปี) คือ การกําหนดให้ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์พลาสติกใหม่ต้องผลิ