สรุปทุกข่าวลือของ “iPhone 15 Pro” ที่หลุดออกมาในตอนนี้

ใกล้เข้ามาอีกหน่อยแล้วสำหรับการเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ของ Apple อย่าง iPhone 15 series ที่คาดว่าจะเปิดตัวตามกำหนดการเดิมเหมือนทุกๆ ปีคือในช่วงเดือนกันยายน

และแน่นอนว่าในทุกๆ ปีรุ่นใหม่จะคุณสมบัติใหม่ๆ มากมาย ยิ่งเป็นใน 2 รุ่นใหญ่อย่าง iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ด้วยแล้วละก็มักจะมาพร้อมความเปลี่ยนแแปลงใหม่ๆ มากว่ารุ่นเล็กเสมอ

ทั้งนี้ตามกระแสข่าวลือที่ออกมาแน่นอนว่า iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max จะมาพร้อมกับ พอร์ต USB-C, ชิป A17 Bionic, กรอบไทเทเนียม

และต่อไปนี้คือ5 สรุปคุณสมบัติใหม่ทั้งหมดที่เราคาดว่าได้เห็นใน iPhone 15 Pro

พอร์ต USB-C: อย่างที่เห็นว่ามีข่าวลืออออกมาตลอดว่าใน iPhone ที่จะเปิดตัวในปี 2023 จะมาพร้อมกับพอร์ต USB-C เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการชาร์จของทางฝั่งยุโรป และในรุ่นที่คาดว่าจะได้ใช้งานพอร์ต USB-C คงหนีไม่พ้น iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ที่เราคาดว่าจะรองรับ USB 3.2 หรือ Thunderbolt 3 เป็นอย่างน้อย ซึ่งจะส่งผลให้อุปกรณ์มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลผ่านการเชื่อมต่อแบบมีสายเร็วขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับ iPhone รุ่นปัจจุบันที่มีพอร์ต Lightning

ปุ่ม Action: มีข่าวลือออกมาว่า iPhone 15 Pro จะมาพร้อมปุ่ม Action ที่ปรับแต่งได้เหมือน Apple Watch Ultra ปุ่มดังกล่าวจะมาแทนที่สวิตช์เปิด/ปิดเสียงที่มีอยู่ใน iPhone ทุกรุ่นตั้งแต่ปี 2550 ผู้ใช้น่าจะกำหนดปุ่มให้กับฟังก์ชันต่างๆ ของระบบได้ เช่น เปิด/ปิดเสียง ห้ามรบกวน ไฟฉาย โหมดพลังงานต่ำ และอื่นๆ อีกมากมายตามการดีไซน์ของผู้ใช้งานเอง

กรอบไทเทเนียม: อ้างอิงตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้าคือแอปเปิลจะเปลี่ยนวัสดุกรอบตัวเครื่องจากสแตนเลสมาเป็นไทเทเนียม เหมือนอย่างใน Apple Watch Ultra

แรงด้วยชิป A17 Bionic: iPhone 15 Pro คาดว่าจะติดตั้งชิป A17 Bionic ชิปรุ่นแรกของ Apple เพื่อให้ประสิทธิภาพที่สูงผลิตขึ้นโดยใช้กระบวนการ 3 นาโนเมตรขั้นสูงของ TSMC เพื่อประสิทธิภาพและการปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงานที่สำคัญ เมื่อเทียบกับชิป 5 นาโนเมตร A16 Bionic ในรุ่น iPhone 14 Pro รุ่นก่อน

และสุดท้ายเรื่องของขอบบางเฉียบ: ตามข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้สื่อต่างประเทศพากันนำเสนอข่าวว่าแอปเปิลจะทำให้ iPhone รุ่นใหม่บางขึ้นและรุ่น iPhone 15 Pro มีข่าวลือว่ามีขอบที่บางกว่าและโค้งเล็กน้อยรอบๆ โดยเฉพาะส่วนการแสดงผล

ต้องรอติดตามกันว่าทั้งหมดนี้จะจริงแค่ไหนเพราะการเปิดตัวจะเริ่มในช่วง ปลายปีนี้