หลังจากที่ บริตนีย์ สเปียร์ส ได้รับการยกเลิก การคุ้มครองทางกฎหมาย เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ไอคอนเพลงป็อปก็ได้เปิดเผยรายละเอียดใหม่เกี่ยวกับการคุ้มครองทางกฎหมายที่ควบคุมชีวิตของเธอมานาน 13 ปี
เมื่ออายุ 26 ปี บริตนีย์ได้ถูกวางอยู่ภายใต้การคุ้มครองทางกฎหมายในปี 2008 หลังจากเหตุการณ์ต่างๆ รวมถึงการโกนหัวและโจมตีรถถ่ายภาพของพาแพราซซี่ด้วยพายุมันเบรลลา ที่ทําให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพจิตของเธอ ข้อตกลงการคุ้มครองนี้ได้ให้บิดาของบริตนีย์ คือ เจมี สเปียร์ส และทนายความควบคุมการเงินและด้านชีวิตส่วนตัวของเธอ ซึ่งมีการอ้างว่า บริตนีย์ป่วยทางจิตและมีปัญหาการติดสาร
ในบันทึกความทรงจําของเธอชื่อ หญิงในฉัน—ซึ่งมีการตีพิมพ์ส่วนหนึ่งในนิตยสาร พีเพิล ในวันอังคารก่อนที่หนังสือจะออกจําหน่ายในวันที่ 24 ตุลาคม บริตนีย์ได้เปิดเผยว่าเจมีละเมิดอํานาจหน้าที่ของเขาเหนือเธอ
“ถ้าฉันคิดว่าการถูกวิจารณ์ร่างกายในสื่อมันเลวร้ายแล้ว มันทําให้ฉันเจ็บปวดมากกว่าที่พ่อของฉันพูดถึงฉันว่าหน้าตาของฉันเป็นไปตามน้ําหนักและฉันต้องทําอะไรบางอย่างเกี่ยวกับมัน” เธอเขียน “การรู้สึกว่าตัวเองไม่เพียงพอเป็นสภาวะที่ทําลายจิตใจสําหรับเด็ก พ่อของฉันได้สื่อสารข้อความนี้ให้ฉันตั้งแต่เด็ก แม้ว่าฉันจะประสบความสําเร็จเท่าไหร่ก็ตาม เขาก็ยังคงทําเช่นนั้นกับฉัน”
บริตนีย์กล่าวว่าการคุ้มครองทางกฎหมายได้ปฏิเสธโอกาสที่เธอจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่
“การคุ้มครองทางกฎหมายได้ขโมยความเป็นสตรีจากฉัน และทําให้ฉันกลายเป็นเด็ก” เธอเขียน “ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นสิ่งของมากกว่ามนุษย์บนเวที พวกเขาได้ขโมยดนตรีออกจากฉัน ดนตรีที่เป็นส่วนหนึ่งของฉัน ถ้าพวกเขาให้ฉันมีชีวิตตามใจฉัน ฉันรู้ว่าฉันจะติดตามหัวใจของฉันและจัดการกับมันได้อย่างถูกต้อง”
ขณะอยู่ภายใต้การคุ้มครองทางกฎหมาย บริตนีย์ได้บันทึกและออกผลงานเพลงฮิต 4 ชุด และจัดคอนเสิร์ตรีไซเดนซ์ “Piece of Me” ในลาสเวกัส ซึ่งทํารายได้ 138 ล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลา 4 ปี
“บางครั้งฉันคิดว่ามันแทบจะตลกที่ฉันได้รับรางวัลจากอัลบัมที่ฉันสร้างขณะที่ครอบครัวของฉันกล่าวว่าฉันไม่สามารถดูแลตัวเองได้” เธอเขียนเกี่ยวกับความสําเร็จของอัลบัม Circus ในปี 2008 “แต่ความจริงแล้ว เมื่อฉันคิดถึงมันอย่างจริงจัง มันไม่ได้ตลกเลย”
ความคาดหวังที่ว่าเธอต้องเป็น “ประหลาด” ในขณะแสดง แต่ต้องเป็นคนเรียบร้อยนอกเวทีนั้นเป็นการกดขี่ต่อเธอ
“ฉันรู้สึกว่าตัวเองถูกปฏิเสธจากความลับของชีวิตที่ทําให้เรามนุษย์—ความบาปที่เกี่ยวกับความสุขและการผจญภัยท