เร่งเจรจาสิทธิบัตรผลิตฟาวิพิราเวียร์ในไทย นายกฯ กำชับหาวัคซีนให้มากที่สุด


เร่งเจรจาสิทธิบัตรผลิตฟาวิพิราเวียร์ในไทย นายกฯ กำชับหาวัคซีนให้มากที่สุด

ข่าวการเมือง

ไทยรัฐออนไลน์

28 เม.ย. 2564 15:07 น.

บันทึก
SHARE

Closed in: 45

นายกรัฐมนตรี กำชับ ต้องจัดหาวัคซีนให้ได้มากที่สุด ไม่จำกัดว่าต้องเป็นผู้ผลิตรายใด ด้าน “อนุทิน” เผยใน ครม. องค์การเภสัชฯ เร่งเจรจาสิทธิบัตร “ฟาวิพิราเวียร์” มาผลิตเองในไทย

วันที่ 28 เม.ย. 2564 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามความคืบหน้าการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 อย่างใกล้ชิด รับฟังประเด็นที่ยังเป็นปัญหาและมีข้อสั่งการให้แก้ไขให้เร็วที่สุด พร้อมกับย้ำกับหน่วยงานที่รับผิดชอบการดูแลจัดหายา และเวชภัณฑ์อื่นๆ ให้เพียงพอ ทั้งนี้ ในส่วนของยารักษาโควิด-19

ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทราบว่า หลังจากได้สั่งยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ที่ใช้ในการรักษาโควิด-19 จากญี่ปุ่นเข้ามาให้เพียงพอต่อการใช้ในประเทศ ขณะนี้ได้กระจายไปยังหน่วยบริการต่างๆ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐและเอกชนทั่วประเทศแล้ว และยังอยู่ระหว่างให้องค์การเภสัชกรรมเร่งดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อเจรจาเกี่ยวกับสิทธิบัตร เพื่อให้ได้สิทธิผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ในประเทศไทยได้เอง ในขณะที่โรงพยาบาลเอกชนก็ยังสามารถนำเข้ายาชนิดนี้ได้ ซึ่งรัฐบาลไม่ได้มีการผูกขาดนำเข้าแต่อย่างใด 

“รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข แจ้งกับ ครม. ว่าองค์การเภสัชกรรมกำลังดำเนินการตามขั้นตอนการเพื่อให้ได้สิทธิยาฟาวิพิราเวียร์เข้ามาผลิตในประเทศ เนื่องจากยามีสิทธิบัตรในต่างประเทศต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ เมื่อได้แล้วจะมีส่วนให้ประเทศไทยมีความมั่นคงในส่วนของเวชภัณฑ์ยามากขึ้น”

สำหรับวัคซีนโควิด-19 นายกรัฐมนตรีย้ำว่า จะต้องดำเนินการจัดหาวัคซีนที่ได้มาตรฐานโดยไม่ได้จำกัดผู้ผลิตว่าต้องเป็นรายใดให้ได้จำนวนมากที่สุด และให้กระจายวัคซีนให้ทั่วถึงประชาชนตามแผนที่วางไว้ กระจายไปให้ทุกจังหวัดทั้งรัฐและเอกชน และให้โรงพยาบาลเอกชนช่วยกระจายวัคซีน ดูแลระบบการให้วัคซีนให้มีประสิทธิภาพไม่ให้เกิดปัญหาระบบล่ม

นอกจากจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเห็นว่าขณะนี้มีประชาชนหลายภาคส่วนต้องการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระของบุคลากรสาธารณสุขหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงให้มีการพิจารณาว่าจะสามารถเปิดช่องทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมช่วยเหลือ เร่งแก้ไขสถานการณ์นี้ได้อย่างไร พร้อมขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ให้เอาจริงเอาจังกับการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค.

อ่านเพิ่มเติม…