จิตแพทย์ตัวจริงผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับนูเรมเบิร์ก

(SeaPRwire) –   Nuremberg ซึ่งจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 7 พฤศจิกายน นำแสดงโดย ในบทบาทจิตแพทย์ที่ได้รับมอบหมายให้ประเมินผู้นำ ก่อนการพิจารณาคดีในเดือนพฤศจิกายน 1945 ตัวละคร Douglas Kelley ของ Malek สร้างจากจิตแพทย์ตัวจริงที่สัมภาษณ์นาซี 22 คนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขามีความเหมาะสมที่จะขึ้นศาลและพวกเขาจะไม่ฆ่าตัวตาย

ศาลทหารระหว่างประเทศได้พิจารณาคดีจำเลยในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อสันติภาพ อาชญากรรมสงคราม อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และการสมคบคิดเพื่อก่ออาชญากรรมเหล่านี้ ตามข้อมูลของ โดยรวมแล้วมีการพิจารณาคดี 13 คดีระหว่างปี 1945 ถึง 1949

Adolf Hitler ได้ฆ่าตัวตายไปแล้วเมื่อวันที่ 30 เมษายน 1945 ดังนั้น Kelley จึงถูกขอให้ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับ Hermann Göring () เพราะเขาเป็นเจ้าหน้าที่นาซีที่มีอำนาจมากเป็นอันดับสองที่ถูกฟ้องร้อง ภาพยนตร์จบลงด้วยการพิจารณาคดีและการตัดสินลงโทษในปี 1946 ของเขา

TIME ได้พูดคุยกับ Jack El-Hai ผู้เขียนหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ The Nazi and the Psychiatrist: Hermann Göring, Dr. Douglas M. Kelley, and a Fatal Meeting of Minds at the End of WWII เกี่ยวกับสิ่งที่ภาพยนตร์ทำได้อย่างถูกต้องและผิดพลาดเกี่ยวกับช่วงเวลานี้

การประเมินทางจิตวิทยาของผู้นำนาซี

ในฐานะจิตแพทย์ของกองทัพสหรัฐฯ Kelley ทำงานที่โรงพยาบาลทหารทั่วยุโรปตะวันตก โดยให้การรักษาสมาชิกบริการที่มีสิ่งที่ต่อมาจะเรียกว่า และช่วยให้พวกเขาฟื้นตัวมากพอที่จะกลับไปในสนามรบ

กับผู้นำนาซี เขาใช้เวลาประมาณห้าเดือนในการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวหลายร้อยชั่วโมง “ถ้าเราสามารถกำหนดความชั่วร้ายทางจิตวิทยาได้ เราจะสามารถทำให้แน่ใจได้ว่าสิ่งเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก” Kelley ของ Malek กล่าวในภาพยนตร์

Kelley สัมภาษณ์โดยได้รับความช่วยเหลือจาก Howard Triest (Leo Woodall) ทหารชาวยิวของสหรัฐฯ ที่ทำหน้าที่เป็นผู้แปล เขาเติบโตใน และเมื่อพ่อแม่ของเขาได้รับวีซ่าเพียงใบเดียวไปยังสหรัฐฯ พวกเขาจึงส่งเขาไป พ่อแม่ของ Triest เสียชีวิตในเหตุการณ์ฮอโลคอสต์

ในการสัมภาษณ์ Kelley ใช้การทดสอบรอยหมึก Rorschach โดยขอให้จำเลยระบุว่าพวกเขามองว่ารอยหมึกมีลักษณะอย่างไร ในภาพยนตร์ นาซีคนหนึ่งกล่าวว่าเขาเห็น “ช่องคลอดของชาวยิว” ในขณะที่ Göring เห็นเลือด

จำเลยได้รับการนำเสนอด้วย Thematic Apperception Test ซึ่งเขาแสดงภาพถ่ายหรือภาพประกอบของสิ่งที่จริงและขอให้พวกเขาเล่าเรื่องราวจากสิ่งที่พวกเขาเห็น

เขาให้ผู้ป่วยทำแบบทดสอบ IQ และยังเล่นกลกับพวกเขาด้วย ตามที่ภาพยนตร์แสดง เพราะเขาคิดว่ามันจะทำให้พวกเขามีความมั่นใจในการสัมภาษณ์ ตามที่ El-Hai กล่าว

มีจิตแพทย์อีกคนหนึ่งคือ Gustav Gilbert (Colin Hanks) ที่ใช้เทคนิคเดียวกัน แต่ได้ข้อสรุปที่แตกต่างกัน Gilbert ต้องการเขียนหนังสือกับ Kelley แต่ Kelley ไม่คิดว่าพวกเขาอยู่ในหน้าเดียวกันเพราะ Gilbert คิดว่าคนเหล่านั้นมีความผิดปกติทางจิต อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้ต่อยกันจริง ๆ อย่างที่ภาพยนตร์แสดง

ข้อสรุปของ Kelley

Kelley พบว่าจำเลยมี IQ เฉลี่ยหรือสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยรวมแล้ว เขาอธิบายว่าพวกเขาเป็นคนบ้างานและพวกฉวยโอกาส “ผู้ที่จะไม่ลังเลที่จะปีนข้ามหลังคนครึ่งประเทศของตนเพื่อปราบปรามอีกครึ่งหนึ่ง” ตามที่ El-Hai ถอดความการประเมินโดยรวมของ Kelley

Kelley สรุปว่า Göring เป็นคนฉลาดมาก จินตนาการสูง และหลงตัวเองอย่างมาก เพราะการตอบสนองจำนวนมากของเขาเน้นไปที่ตัวเขาเอง “ไม่มีใครเคยเอาชนะฉันได้” Göring ของ Crowe กล่าวในภาพยนตร์ เขาไม่ได้วินิจฉัยว่า Göring มีความเจ็บป่วยทางจิตเวชร้ายแรงใด ๆ

“ถ้าคุณเชื่อว่าคนเหล่านี้ รวมถึง Göring มีความผิดปกติทางจิตเวช เป็นสัตว์ประหลาด เป็นตัวอย่างของมนุษย์ที่เบี่ยงเบนไปจากปกติจริง ๆ คุณก็จะปลดเปลื้องพวกเขาจากความรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา” El-Hai กล่าว “พวกเขาทำการเลือก และสัตว์ประหลาดไม่จำเป็นต้องทำการเลือก สัตว์ประหลาดเพียงแค่ทำตัวเหมือนสัตว์ประหลาด และฉันชอบแนวคิดที่จะให้พวกเขารับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา”

จุดจบของ Nuremberg

Kelley ไม่ได้เห็นผู้ป่วยของเขาทั้งหมดขึ้นศาล ในขณะที่ภาพยนตร์แสดงให้เห็นว่าเขาถูกไล่ออกเนื่องจากรั่วไหลข้อมูลให้กับนักข่าวหญิงที่แต่งขึ้นเกี่ยวกับอัยการที่อาจถูก Göring โค่นล้ม เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งและกลับไปที่สหรัฐฯ ในช่วงเวลาที่ Göring ขึ้นให้การ ไม่ได้นั่งอยู่ในกลุ่มผู้ชมเฝ้าดูลูกค้าของเขาและพบปะเป็นการส่วนตัวกับเขาหลังจากนั้นเหมือนที่ภาพยนตร์แสดง

แต่การประเมินของเขาช่วยให้อัยการสามารถตั้งคำถามที่ชาญฉลาดมากขึ้น และเมื่อสิ้นสุดการพิจารณาคดี เป็นที่ชัดเจนว่า Göring ตระหนักดีถึง , ความโหดร้ายที่ , และอาชญากรรมสงครามต่อพลเรือน

Göring ถูกตัดสินประหารชีวิต แต่เขาฆ่าตัวตายด้วยไซยาไนด์เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 1946 ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเขาได้ยาเม็ดมาได้อย่างไร แต่ทฤษฎีหนึ่งก็คือยามลักลอบนำยามาให้เขา

Kelley เขียนหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขา Twenty-Two Cells in Nuremberg และเดินสายบรรยาย เตือนชาวอเมริกันเกี่ยวกับผู้คนที่เป็นเหมือน โดยคิดถึงพวกแบ่งแยกสีผิวทางตอนใต้เป็นหลัก เขาถึงกับสนับสนุนให้ทำการตรวจสุขภาพจิตกับทุกคนที่ลงสมัครรับเลือกตั้งทางการเมือง

ในปี 1958 ท่ามกลางปัญหาการแต่งงานและปัญหาการดื่ม Kelley ฆ่าตัวตายด้วยการกินผงไซยาไนด์

ความสำคัญของผลการวิจัยของ Kelley

หนังสือของ Gilbert ได้รับความนิยมมากกว่าหนังสือของ Kelley และ El-Hai คิดว่าเป็นเพราะวิทยานิพนธ์บอกสิ่งที่ประชาชนต้องการได้ยิน Gilbert สรุปว่าพวกนาซีเป็นกลุ่มที่มีความผิดปกติทางจิตเวช “สงครามที่น่ากลัวนี้เพิ่งจบลง การพิจารณาคดีที่ยาวนานนี้เพิ่งจบลง” El-Hai กล่าว “และฉันคิดว่าประชาชนมีแนวโน้มที่จะคิดว่านั่นอาจเป็นจุดสิ้นสุดของพฤติกรรมแบบนี้ มันอยู่เบื้องหลังเราแล้ว ข้อสรุปของ Gilbert อนุญาตให้มีความเชื่อเช่นนั้นได้” ข้อสรุปของ Kelley ค่อนข้างแตกต่างกัน “พวกเขาเสนอแนวคิดที่ว่าคนเหล่านี้อยู่รอบตัวเรามาโดยตลอดและจะเป็นเช่นนั้นเสมอไป สงครามจะไม่หยุดมัน การพิจารณาคดีจะไม่หยุดมัน และเราจะต้องต่อสู้กับผู้คนที่อยู่ในช่วงบุคลิกภาพปกติไปตลอดกาล แล้วเราจะทำอย่างไรกับมัน”

“`