หนึ่งปีผ่านไป แอดเดอรอลล์หายไปที่ไหน

Ten milligram tablets of the hyperactivity drug, Adderall, m

สหรัฐอเมริกากําลังเผชิญปัญหายาอัดเดอรอลล์หายไปอย่างไร – ปัญหาที่ไม่มีใครสามารถตอบได้

วันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา ครบรอบหนึ่งปีนับตั้งแต่การประกาศอย่างเป็นทางการของกระทรวงอาหารและยาสหรัฐอเมริกาว่าบริษัทผู้ผลิตยาต่างๆ ไม่สามารถผลิตยาอัดเดอรอลล์ได้เพียงพอ ซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาอาการสับสน ไม่สม่ําเสมอ และขาดความสนใจหรือพฤติกรรมก้าวร้าวที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรคสมาธิสั้น ADHD ซึ่งมีผู้ป่วยถึง 41 ล้านคนทั่วสหรัฐอเมริกา ที่พึ่งพายานี้ทุกวันเพื่อรักษาอาการ ได้แก่การขาดสมาธิ และพฤติกรรมก้าวร้าว

แปดบริษัทผู้ผลิตยารายงานว่าขาดแคลนยาอัดเดอรอลล์ ซึ่งทําให้ยารักษาโรค ADHD อื่นๆ สําคัญก็ขาดแคลนเช่นกันหลังจากแพทย์หันไปใช้วิธีการรักษาอื่นแทนสําหรับผู้ป่วย “ปัญหานี้ทําให้ฉันตกใจมาก” Marta Wosińsk นักวิเคราะห์อาวุโสและเศรษฐศาสตร์สุขภาพของสถาบันบรูกกิ้งส์กล่าว “เพราะมันยังไม่มีแผนการแก้ไข และผู้เกี่ยวข้องสําคัญๆ ไม่ได้อธิบายสาเหตุอะไรกันเลย”

นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า กระทรวงอาหารและยาสหรัฐบางส่วนมีความรับผิดชอบต่อปัญหาขาดแคลนนี้ เนื่องจากมาตรฐานรายงานที่ผ่อนปรนของกระทรวงต่อบริษัทผู้ผลิต เป็นเหตุให้ยังมีเพียงทฤษฎีเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหาขาดแคลน แทนที่จะเป็นคําตอบที่แน่นอน เนื่องจากบุคคลภายนอกและกันเองต้องการข้อมูลน้อยมาก

สาเหตุที่เป็นไปได้ของปัญหาขาดแคลนนี้ ได้แก่ อัตราการสั่งยาเพิ่มขึ้น และการควบคุมอย่างเข้มงวดของกรมควบคุมยาเสพติดสหรัฐฯ ต่อส่วนผสมสําคัญ แต่เนื่องจากข้อมูลน้อยเกินไปจึงไม่สามารถตรวจสอบสาเหตุเหล่านี้ได้

การวินิจฉัยโรค ADHD เพิ่มขึ้น

เป็นเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา สาเหตุหลักที่เชื่อกันว่าเป็นเหตุของปัญหาขาดแคลนคือ อัตราการสั่งยาและการวินิจฉัยโรค ADHD เพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่องระหว่างปี 2563-2564 ส่วนผสมหลักของยาอัดเดอรอลล์คือแอมเฟตามีนเกลือควบคุม การผลิตยาจึงต้องมีการติดต่อระหว่างกระทรวงอาหารและยา บริษัทผู้ผลิต และกรมควบคุมยาเสพติดสหรัฐฯ ซึ่งกําหนดจํานวนสูงสุดของแอมเฟตามีนที่บริษัทผู้ผลิตสามารถใช้ได้ต่อปี

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีข้อสังเกตว่ามีเรื่องอื่นที่เกิดขึ้นด้วย – และไม่มีใครต้องการรับผิดชอบ ในจดหมายร่วมที่ออกเผยแพร่เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ผู้อํานวยการกระทรวงอาหารและยา และผู้อํานวยการกรมควบคุมยาเสพติดสหรัฐฯ ระบุว่า พวกเขาจะทบทวนการกําหนดปริมาณยา แต่บริษัทผู้ผลิตยากระตุ้นจิตใจสั่งขายได้เพียงร้อยละ 70 ของปริมาณที่ได้รับอนุญาตในปี 2565 และปี 2566 คาดว่าจะเหมือนกัน ซึ่งหมายความว่าปัญหาขาดแคลนไม่ได้เกิดจากปริมาณยาที่กรมค