ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทลดลงจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง

Wall Street

วอลล์สตรีต

ในวันอังคารที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกาเกิดการลดลงเนื่องจากข่าวการระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาอาจยังมีความเข้มแข็งเกินไปสําหรับความสะดวกของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา

ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.5% ในการซื้อขายเบื้องต้น โดยดาวโจนส์อุตสาหกรรมเสียหน่วย 64 จุด หรือ 0.2% ณ เวลา 10.10 น. ตามเวลาตะวันออก ขณะที่ดัชนีนาซดักก็เห็นการลดลง 0.9%

การฟันฝ่าของตลาดในช่วงที่ผ่านมาถูกขับเคลื่อนโดยความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ํามัน แต่ความสนใจก็กลับมายังปัจจัยพื้นฐานที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดระยะยาว: อัตราดอกเบี้ยและกําไรของบริษัท

รายงานใหม่ทําให้เกิดความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจต้องรักษาอัตราดอกเบี้ยสูงเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ แต่การกระทํานี้อาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นและการลงทุน

รายงานนี้แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคสหรัฐใช้เงินมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจแข็งแรงและตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแรง แต่อาจส่งผลให้เกิดอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นเกินเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลาง

ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกากําลังเผชิญภารกิจที่ยากลําบากในการชะลอเศรษฐกิจลงเพียงพอเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น แต่ไม่ก่อให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรง

ตามรายงานนี้ อัตราดอกเบี้ยในตลาดตราสารหนี้เพิ่มขึ้นทันที ดอกเบี้ย 10 ปีเพิ่มจาก 4.69% เป็น 4.84% เมื่อเทียบกับวันก่อน

ตลาดหลักทรัพย์ถูกส่งผลกระทบอย่างมากจากการเพิ่มขึ้นอย่างมากของอัตราดอกเบี้ย 10 ปีตั้งแต่ฤดูร้อน เนื่องจากนักลงทุนยึดตามคาดการณ์ของธนาคารกลางว่าอัตราดอกเบี้ยสูงจะคงอยู่นาน

อัตราดอกเบี้ยและอัตราผลตอบแทนสูงส่งผลกระทบเชิงลบต่อหมวดหมู่หุ้นต่างๆ โดยเฉพาะบริษัทที่มีการประเมินมูลค่าตามการเติบโตระยะยาวหรือบริษัทที่มีราคาแพง ซึ่งทําให้เกิดความเสี่ยงต่อบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ โดย Nvidia ลดลง 5.4% และ Apple ลดลง 1.6% ซึ่งส่งผลต่อการลดลงของดัชนี S&P 500

Nvidia และบริษัทผู้ผลิตชิปอื่นๆ ประสบความกดดันเพิ่มเติมจากการขยายขอบเขตของข้อจํากัดของรัฐบาลสหรัฐเพื่อป้องกันไม่ให้จีนได้รับชิปคอมพิวเตอร์ขั้นสูงและอุปกรณ์สําหรับการผลิต

บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งของสหรัฐรายงานผลการดําเนินงานไตรมาสที่ 3 ที่ผสมผสานกัน ธนาคารบริษัทอเมริกาเพิ่มขึ้น 0.1% หลังผ่านเกณฑ์กําไรของนักวิเคราะห์ตลาดสําหรับไตรมาสที่ 3 โดยได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น แต่ซีอีโอไบรอัน มอยนิฮัน เตือนว่าผู้บริโภคสหรัฐยังคงตัดจ่ายลงหลังใช้จ่ายเงินสํารองจากช่วงโควิดเกือบหมดไป